วิธีการทำแอพพลิเคชันให้ได้เงินล้าน

Nick D'Aloisio เด็กหนุ่มวัย 17 เจ้าของแอพฯ Summly ที่เคยกลายเป็นข่าวพาดหัวใหญ่ เพราะ YAHOO ได้ติดต่อขอซื้อ Summly ของเขาด้วยจำนวนเงินสูงถึง 18 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง และจากนี้จะเป็นวิธีการก้าวไปสู่ความฝันแบบทีละขั้น เพื่อความสำเร็จที่คุณจะเป็นเจ้าของในอนาคต

Step 1 : ไอเดีย

นี่เป็นก้าวเล็กๆที่สำคัญ คุณต้องแน่ใจว่าไอเดียที่คุณมีต้องไม่ใช่ไอเดียขยะ นั่นหมายความว่า คุณต้องสร้างไอเดียจากสิ่งที่มีอยู่ เช่น การพูดคุยกับใครก็ได้ที่เล่นแอพฯบ่อยๆ สอบถามความต้องการของเขา ขอให้คุณสังเกตว่า แอพฯที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ มี 2 กลุ่ม คือ (1) กลุ่มที่ให้ความบันเทิง เช่น Angry Birds หรือ (2) กลุ่มที่ช่วยอำนวยความสะดวก เช่น Summly ซึ่งช่วยในเรื่องข่าวสาร ถ้าแอพฯของคุณมีคุณสมบัติดังนี้ ก็ไม่น่ากังวล

Step 2 : สเปค

ควรพูดคุยกับผู้พัฒนาแอพฯคนอื่นบ้าง หรือไม่ก็ต้องรู้ว่าพวกเขาทำงานอย่างไร? เพราะคุณต้องรู้วิธีการทำให้ง่าย และทำให้ออกมาง่าย ซึ่งมันจะเจ็บปวดมากถ้าคุณจะต้องมาเสียเวลากับฟังก์ชั่นการออกแบบที่ซับซ้อนมากๆ มันคงจะดีกว่าถ้าคุณได้รู้มาก่อนว่าจะทำอย่างไรให้ง่าย เพื่อให้การทำงานของคุณจะได้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

Step 3 : เงินทุน

หลายคนเริ่มต้นจากทุนส่วนตัว ซึ่งถ้าคุณมีเส้นสายที่ดี Kickstarter campaign ก็อาจเป็นช่องทางหนึ่งสำหรับช่วยคุณหาทุนได้ เพราะหลายบริษัทตัดปัญหาการจ้างงานพนักงานเงินเดือนด้วยวิธีนี้ ในเงินจำนวนมาก จำเป็นต้องมีการร่างสัญญา ระหว่างเรากับนายทุนใจดี ในฐานะที่เราเป็นผู้ร่วมทุนแต่เขาจะต้องลงทุนไปก่อน ซึ่งท้ายที่สุดก็ต้องมาพิสูจน์ฝีมือกัน

Step 4: การสร้าง

การศึกษาทางด้าน IT มีอิทธิพลมากสำหรับฝีมือนักพัฒนา วิศวกรคอมพิวเตอร์หลายคนมักเป็นนักพัฒนาแอพฯด้วย แต่ผู้เชี่ยวชาญยังมีจำนวนน้อยในขณะที่ความต้องการของตลาดงานมีมากกว่า ทำให้พวกเขาสามารถเรียกราคาได้แพงๆ เช่น เรียกต่องานเป็นแสนๆบาท ฉะนั้น คุณจะต้องรู้ความเชี่ยวชาญที่จำเป็นสำหรับนักพัฒนา เช่น ภาษา Objective-C ที่ใช้พัฒนาบน iOS (ระบบปฏิบัติการของ Apple) หรือ Java ซึ่งเป็นภาษาในกลุ่ม Android

Step 5: การตลาด

ทำการตลาดให้น่าสนใจ ใช้การพาดหัวที่ต้องจับตามอง “อัจฉริยะทางเทคโนโลยี” หรือ “สุดยอดแอพระดับโลก” ซึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นการประโคมข่าวตาม Twitter และ Press ไม่ก็ทำคลิปวีดีโอเพื่อโฆษณาว่าแอพฯของคุณเจ๋งอย่างไร ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ใช้สนใจ แต่ทั้งหมดนี้จะล้มครืนไปในทันที ถ้าแอพของคุณไม่สนุก หรือ ไม่มีประโยชน์

ที่มา : http://www.guardian.co.uk/theguardian/shortcuts/2013/mar/26/how-to-become-an-app-millionaire