เรียนรู้ตลาดเกมมือถือที่ญี่ปุ่นกับ คุณออฟ อรรถพร แห่งวงการ Startup และ the31

by

แบ่งปันบทความShare on Facebook331Tweet about this on Twitter4Share on Google+0




ไปญี่ปุนไม่ต้องวีซ่า แต่ถ้าอยากไปลุยตลาดเกมมือถือที่ญี่ปุ่น ต้องถามเค้าคนนี้เลย และบทสัมภาษณ์พิเศษที่คุณไม่ควรพลาด

คงไม่ต้องบอกว่า “ญี่ปุ่น” แดนอาทิตย์อุทัย ถือว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายๆ ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวที่ทำให้คนไทยบ้านเราดีใจสุดๆ จากที่เคยต้องทำวีซ่าก็ไม่ต้องทำ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย และแน่นอนว่าเป็นประเทศที่ถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตทั้งเครื่องเล่นเกมและตัวเกมชั้นแนวหน้าของโลกเลย ซึ่งวันนี้ทาง Appgame.in.th ได้รับเกีรยติในการสัมภาษณ์ กับผู้ที่คล่ำหวอดอยู่ในวงการเกมมือถือญี่ปุ่นคนหนึ่ง ซึ่งเราจะรู้จักเค้าเป็นอย่างดีในวงการ Startup เมืองไทยอย่างคุณออฟ อรรถพร ชาญประโคน เราลองมาพูดคุยทำความรู้จักตัวเค้าให้มากขึ้น และสิ่งที่เค้าจะมาเล่าให้ฟังในครั้งนี้

 

1. เริ่มต้นกันแบบสบายๆเลย ขอประวัติส่วนตัวก่อนเลย

of

อรรถพร ชาญประโคน สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีจากคณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาญี่ปุ่นธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และสำเร็จหลักสูตรภาษาญี่ปุ่นขั้นสูง 1 จาก Kyoto Institute of Arts and Design (KICL) ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Startup ด้านเกมชื่อ The 31 , พาร์ทเนอร์ของ NE8T Cafe/School/Space for All Makers ในการร่วมพัฒนา School of Inner Life (Workshop ด้านการพัฒนา Mindset และศักยภาพภายในของผู้คน) และเป็นคณะทำงานของ Thailand Tech Startup Association ครับ

 

2. ช่วยเล่าเรื่องประสบการณ์ต่างๆ ให้ได้ฟังหน่อย

ช่วงที่ยังเรียนอยู่ ด้านการเรียน เป็นคนที่ผลการเรียนดีมาตลอดครับ (ฮา) และด้วยความที่ว่าตัวเองไม่มีปัญหาเรื่องการเรียนอะไร เลยมองหากิจกรรมอื่นๆทำมาเรื่อยๆครับ ได้ลองทำงานมาตั้งแต่ช่วงก่อนขึ้นมัธยมต้น งานแรกที่ได้ทำคือเป็นทีม R&D ให้กับการ์ดเกมไทยเจ้าหนึ่ง พี่จ๊อบ (กิตติพงศ์ พรเลิศ) พี่ที่รู้จักกันผ่านเว็บบอร์ดการ์ดเกมให้โอกาสเข้าไปทำครับ ถึงแม้ว่าสุดท้ายการ์ดเกมนี้จะไม่ได้วางจำหน่ายก็ตาม แต่การได้ทำงานตรงนี้ก็เป็นจุดที่ทำให้ผมได้เรียนรู้โลกแห่งการทำงานตั้งแต่ยังเด็ก หลังจากนั้นช่วงมหาวิทยาลัยก็ได้ลองงานอีกหลายอย่าง เช่น งานเขียนเว็บ งานที่ปรึกษาด้านการออกแบบการ์ดเกม งานแปลบทความให้นิตยสารเกม และอื่นๆ ที่ประทับใจที่สุดในช่วงนี้คือได้ทำเว็บไซต์ Internet TV ขึ้นมาด้วยครับ ฟอร์มทีมงานทำทั้งเว็บและรายการกันเอง ตั้งแต่สมัยความเร็วเน็ตบ้านเรายังไม่ค่อยอำนวยเท่าไหร่ ทำรายการจนมีเคเบิลทีวีรายหนึ่งติดต่อให้ผลิตรายการให้ น่าเสียดายที่ช่วงนั้นด้วยเวลาและสมาชิกต่างติดภารกิจอื่นๆกันเลยทำให้ต้องหยุดโครงการไว้ตรงนั้นครับ

หลังจากได้ลองทำอะไรต่างๆมากมาย ทำให้ผมค่อนข้างชัดเจนกับตัวเองว่าอยากเป็นผู้ประกอบการและทำธุรกิจของตัวเอง เมื่อจบมหาวิทยาลัยก็ตัดสินใจไปญี่ปุ่นด้วยวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาภาษาญี่ปุ่นของตัวเองให้ดี กลับมาทำงานสายล่ามสักระยะหนึ่งเพื่อประสบการณ์และเก็บเงินก้อนเพื่อเริ่มต้นธุรกิจสักอย่าง เพราะงานล่ามญี่ปุ่นระดับสูงเงินดีมากครับ แต่สุดท้ายเมื่อกลับมาไทยก็ไปทำงาน Digital Agency ครับ ฮ่าๆ เพราะจริงๆแล้วไม่ได้ชอบงานล่ามมากนัก สนุกกับงานด้านธุรกิจออนไลน์ที่เคยทำตอนสมัยเรียนมากกว่าครับ

 

3. เริ่มเข้าสู้วงการ Startup ได้อย่างไร

รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในวงการ Startup แล้วครับ ฮ่าๆ เริ่มทำสตาร์ทอัพตั้งแต่คำๆนี้ยังไม่แพร่หลายในบ้านเราครับ หลังจากทำงาน Digital Agency ก็ออกมาทำสตาร์ทอัพที่ชื่อ Wearcase กับเพื่อนๆ เป็นแพลทฟอร์มที่เปิดให้ดีไซเนอร์มาออกแบบเสื้อยืดแล้วก็เฟลไป ก็กลับไปทำงานประจำเป็น Lead Tester ของบริษัทที่ทำเรื่องตรวจสอบคุณภาพเกมรายใหญ่รายหนึ่งของญี่ปุ่น แต่ใจก็ยังคิดเรื่องทำ Startup อยู่ จนมีโอาสได้เข้าร่วม AIS The Startup Weekend ครั้งแรก บรรยากาศในงานทำให้รู้สึกว่าถึงเวลาที่ต้องกลับมาทำสตาร์ทอัพอีกครั้งแล้วล่ะ ก็เลยตัดสินใจออกจากงานมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

ในระหว่างที่กำลังปรับไอเดียที่จะทำ ผมก็ได้รับคัดเลือกให้ไปเรียน Disrupt University หลักสูตรสำหรับ Startup หลักสูตรแรกของไทย ซึ่งเป็นอีกจุดเปลี่ยนหนึ่งของชีวิตก็ว่าได้ เพราะนอกจากได้เรียนรู้วิธีคิดและเทคนิคต่างๆ ที่ใช้กันใน Silicon Valley เป็นครั้งแรก ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ผมใช้ในการทำงานมาจนถึงทุกวันนี้แล้ว ยังได้รู้จักกับฮีโร่ของวงการสตาร์ทอัพไทยอย่างพี่กระทิง (เรืองโรจน์ พูนผล) และเพื่อนๆ หลายคนที่ส่วนหนึ่งก็มาร่วมก่อตั้ง The 31 ทำงานด้วยกันตอนนี้และอีกหลายคนก็พูดคุยช่วยเหลือกันมาถึงตอนนี้ ช่วงนั้นก็เริ่มมี Co-working space อย่าง HUBBA และ Launchpad เกิดขึ้นในไทยด้วย คนที่ทำ Startup จึงมีโอกาสได้พบปะกัน ได้รู้ว่าเราไม่ได้ทำสิ่งนี้อยู่คนเดียว มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์อยู่ไม่น้อย ในที่สุดก็ได้เจอคนที่คุยภาษาเดียวกันครับ ฮ่าๆ และด้วยความที่วงการสตาร์ทอัพบ้านเรายังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้น คอมมิวนิตี้ยังไม่ใหญ่นัก ส่วนใหญ่ก็จะรู้จักกันครับ

 

4. พูดถึง Disrupt University หลักสูตร Startup เค้ามุ่งเน้นสอนอะไรมาบ้าง

ที่ Disrupt University หลักๆเลยจะเป็นเรื่องของแนวคิดตั้งแต่เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามแนวทางของ Lean Startup คือพัฒนาอย่างรวดเร็ว โดยดูจากความต้องการและผลตอบรับของผู้ใช้เป็นหลัก ตลอดจนถึงกระบวนการความคิดอย่าง Design Thinking ซึ่งบริษัทที่ออกแบบผลิตภัณพ์และบริการระดับโลกใช้กัน การพิทช์ ( Pitch ) หรือนำเสนอไอเดียกับนักลงทุน ลำดับการเติบโตของ Startup และอื่นๆอีกมากมายครับ ผมเคยสรุปเอาไว้ในบล็อกของผมด้วย ลองเข้าไปอ่านกันได้ตามลิงก์นี้ครับ

สรุปความรู้ที่ได้จาก Disrupt University (วันที่ 1)

สรุปความรู้ที่ได้จาก Disrupt University (วันที่ 2)

สรุปความรู้ที่ได้จาก Disrupt University (วันที่ 3)

สรุปความรู้ที่ได้จาก Disrupt University (วันที่ 4)

นอกจากนี้ทุกรุ่นยังมีการเพิ่มความรู้ใหม่ๆเข้าไปด้วย ถ้าใครสนใจรอติดตามข่าวคราวของ Disrupt University (ตอนนี้อัพเดทเป็น StartX 2.0) ที่เพจนี้ครับ https://www.facebook.com/DisruptUniversity

 

5. ผลงานเกมในบริษัท the31 มีอะไรบ้าง

logo-black

ที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดก็คงจะเป็นเกมพัซเซิลเน้นความฮาอย่าง ชัชชาติครัช ที่เป็นกระแสทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์เมื่อปีที่แล้วครับ ส่วนตอนนี้ก็กำลังเก็บฟีดแบ็คให้กับเกม Bite Size Fantasy (iOS) เกม Casual RPG เล่นง่ายๆ ไม่ซับซ้อนซึ่งได้รับฟีดแบ็คที่ดีจากผู้เล่นหลายประเทศ ช่วงที่ผ่านมาลองทดสอบตลาดดูก็มีรีวิวและอีเมลเข้ามามากมาย โดยเฉพาะหลักๆจะเป็นผู้เล่นในอเมริกาครับ สำหรับช่วงนี้ก็มองหา Publisher เพื่อร่วมมือกันสเกลอัพเกมนี้อยู่ ถ้าใครสนใจหรือพอแนะนำได้ก็ยินดีและขอบคุณมากเลยครับผม แล้วก็มีเกมที่อยู่ในช่วงพัฒนาอีก 2-3 เกมครับ

chadchart crush  bite size fantasy 1bite size fantasy 2

 

6 . ตอนนี้ตลาดเกมในญี่ปุ่น น่าสนใจอย่างไร พอจะอธิบายให้ฟังที

ตลาดโมบายล์เกมญี่ปุ่นเป็นตลาดที่น่าสนใจครับ ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการเล่นเกมอย่างเข้มข้นอยู่แล้ว และที่สำคัญคือผู้ใช้งานมือถือในตลาดเกมของเค้า มีการใช้จ่ายเงินไปกับเกมในอัตราที่สูงมากเป็นอันดับต้นๆของโลกด้วย อย่างไรก็ดี ส่วนที่เป็นความท้าทายสำหรับค่ายเกมต่างชาติที่ต้องการจะเข้าไปทำการตลาดในญี่ปุ่น ก็คือกำแพงภาษา และตลาดที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะทางของชาวญี่ปุ่น

ถ้าคิดจะไปทำการตลาดของเกมที่ญี่ปุ่นและหวังจะประสบความสำเร็จได้ดีนั้น หากพูดกันคร่าวๆในภาพรวมแล้ว สิ่งที่ต้องปฎิบัติเป็นหลักเบื้องต้นเลยก็คือการ Localize หรือแปลภาษาในเกม ให้เป็นภาษาญี่ปุ่น จำเป็นต้องทำมากๆเลย แม้จะเป็นเกมที่มีภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษแล้วก็ตาม ส่วนงานด้านภาพกราฟิกในเกมก็มีผลครับ เพราะหลายๆ เกมที่มีถูกออกแบบภาพกราฟิก ให้ดูออกมาเป็นแนวถูกใจชาวตะวันตก (ฝรั่ง) แต่ถ้าไปที่ญี่ปุ่นก็ต้องมีการผลักดันกันหนักหน่อย  เพราะคนญี่ปุ่นมีความชอบในงานภาพกราฟิกที่แตกต่างกันออกไปครับ สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่ต้องคิดและทำเพิ่มสำหรับเกมที่ต้องการเข้าไปในตลาดญี่ปุ่นครับ นอกจากนี้ถ้าสามารถหาพาร์ทเนอร์ดีๆ ที่เป็นชาวญี่ปุ่นได้ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีมากเลย เพราะจะทำให้การทำงานหลายๆอย่างง่ายขึ้นครับ

ส่วนตัวแล้ว ตอนนี้เกมมือถือของคนไทยที่ไปเติบโตในตลาดญี่ปุ่น ผมยังไม่ค่อยเห็นมากเท่าไหร่ แต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย อย่างที่เด่นๆก็ Unblock Me โดย Kiragames ครับ ทีมนี้เก่งและมืออาชีพมากๆครับ และเชื่อว่าในอนาคตคงได้เห็นเกมไทยดีๆ ที่โดนใจคนญี่ปุ่นมากขึ้นครับ

 

8. หากคิดจะลุยตลาดญี่ปุ่น สามารถปรึกษาทางคุณออฟได้หรือไม่

ยินดีครับผม ช่วงที่ผ่านมาผมเป็น Senior Advisor ให้กับ Quan Inc. ซึ่งเป็น Publisher ที่นำโมบายล์เกมจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปทำตลาดที่ญี่ปุ่นด้วย ถ้าภาพรวมของเกมดูแล้วโอเค ผมสามารถเชื่อมโยงให้ได้ครับ

 

9.  ชอบกินอะไรที่ญี่ปุ่นครับ

โอ้ เยอะมากเลยครับ นิยมหมดไม่ว่าจะเป็นซูชิ ซาชิมิ ราเมน เนื้อย่าง ข้าวหน้าต่างๆ และอื่นๆอีกมากมาย พูดแล้วก็หิวเลยครับ ฮ่าๆ

 

10. อยากจะฝากอะไรถึงผู้อ่านไหมครับ อะไรก็ได้ครับ

ขอบคุณที่อ่านบทสัมภาษณ์มาจนถึงตรงนี้นะครับ อิอิ อ้อ ถ้าใครสนใจศึกษาเรื่องเกี่ยวกับโมบายล์แอปเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเกมหรือไม่ก็ตาม ลองหาหนังสือ “App Empire” หรือชื่อภาษาไทย “สร้างเงินล้านอย่างรวดเร็วด้วยธุรกิจ App” มาอ่านได้ครับ สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านมีความสุข สนุกเพลิดเพลินกับการเล่นโมบายล์เกมครับ :)

app empire thai

 

เห็นแล้วน่าสนใจไหมครับ หากคิดจะก้าวสู่ตลาดธุรกิจเกมของที่ญี่ปุ่นนั้น มันไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่ต้องมีเทคนิคและผู้ปรึกษาที่ดี เชื่อว่าหลายๆคนก็คงได้ประโยชน์ ไม่มากก็น้อย !!




แบ่งปันบทความShare on Facebook331Tweet about this on Twitter4Share on Google+0