มารู้จักกับเหล่าตัวละคร ที่จะมาร่วมผจญภัยใน Dissidia FF: Opera Omnia กันเถอะ!! (Part1)

by




capture
เป็นเวลากว่า 30ปี มาแล้ว ที่ชื่อของ “Final Fantasy” ได้อยู่คู่วงการเกม และมีเกมภาคใหม่ๆทั้งภาคหลักภาคย่อยออกมามากมาย และอีกหนึ่งภาคล่าสุดในขณะนี้ก็คือ “Dissidia Final Fantasy: Opera Omnia” ซึ่งเป็นภาคที่จะรวมเหล่าตัวละครของ Final Fantasy หลายสิบภาคหลายสิบตัวละครมาให้ได้เล่นกัน เชื่อได้เลยว่าเกมนี้เป็นหนึ่งในเกมที่หลายคนตั้งตารอคอยที่จะเล่นกันในสิ้นปีนี้อยู่แน่นอน แต่ตัวเกมที่มีตัวละครเยอะแยะมากมายแบบนี้ อาจจะทำให้หลายคนที่ไม่เคยเล่นเกม หรือไม่เคยรู้จักตัวละครในแต่ละภาคมาก่อน ก็อาจจะทำให้ไม่รู้ว่าจะเลือกใครเข้าทีมดี หรืออาจทำให้ได้รับความสนุกได้ไม่เต็มที่นัก เพราะงั้นในครั้งนี้เราจะมาแนะนำประวัติตัวละครแต่ละตัวให้รู้จักกันคร่าวๆ เพื่อให้ได้อรรถรสก่อนเล่นเกมจริงกันครับ

img_figure_01

Worrior of Light (จาก Final Fantasy I)
ให้เสียงพากย์โดย คุณเซกิ โทชิฮิโตะ

เมื่อโลกถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด เหล่านักรบแห่งแสง จะปรากฎตัวออกกอบกู้ คริสตัล เพื่อนำโลกคืนสู่ความสงบสุข นั่นคือเรื่องราวเริ่มต้นของ จาก “Final Fantasy I” ซึ่งนักรบแห่งแสงผู้กอบกู้โลกนั้นก็คือ “Worrior of Light” นั่นเอง แต่ในเกมเดิมนั้นบทบาทของเขาอาจจะไมได้เด่นชัดเป็นตัวเป็นตนมากนัก เพราะตัวเกมในตอนนั้นให้ผู้เล่นได้สร้างตัวละครและเลือกอาชีพได้เอง ไม่ได้มีการกำหนดบทบาทเนื้อเรื่องของตัวละครชัดเจนแบบทุกวันนี้ จนกระทั่งตัวเกมภาคแรกได้มีการทำ CG ในฉากเปิดของตัวเกมที่ได้มีการรีเมคใหม่ และได้ทำลงในภาค “Dissidia Final Fantasy” บทบาทของ Worrior of Light ก็เป็นเรื่องเป็นราวเด่นชัดมากขึ้นกว่าเดิม เขามีลักษณะของทั้งความเป็นอัศวินผู้ผดุงความยุติธรรม และมีความเป็นผู้นำมากที่สุด ซึ่งในเกมภาคนี้ เราจะได้ร่วมเดินทางเพื่อตามหาความทรงจำที่หายไปของเขาให้กลับคืนมา

6
Vivi(จาก Final Fantasy IX)
ให้เสียงพากย์โดย คุณโอทานิ อิคุเอะ

“Vivi” เป็นพ่อมดน้อยผู้น่ารักประจำ “Final Fantasy IX” เขามักจะแสดงอาการขี้กลัว และดูเป็นคนที่พึ่งพาไม่ค่อยได้ แต่ความจริงแล้วเขามีจิตใจอันบริสุทธิ์ และยังรักพวกพ้องเป็นอย่างมาก ซึ่งหากเพื่อนๆของเขามีเรื่องเดือดร้อนขึ้นมา เขาก็จะเป็นคนที่สู้ไม่ถอย Vivi เป็นพ่อมดที่เชี่ยวชาญการใช้เวทมนต์ดำเป็นอย่างดี เขาสามารถใช้เวทมนต์ได้หลากหลาย โดยเฉพาะเวทย์ Fire ที่เขาถนัด ในเกมนั้นเวทมนต์ของเขาจะต้องช่วยปกป้องทุกคนได้ด้วยแน่นอน

rem
Rem Tokimiya (จาก Final Fantasy Type-0)
ให้เสียงพากย์โดย คุณชิราอิชิ เรียวโกะ

“Final Fantasy Type-0” เป็นโลกของสงครามที่มีการต่อสุ้แย่งชิงพลัง คริสตัล ของฝ่ายมหาอำนาจทั้ง 4 ซึ่งสงครามนั้นดุเดือดโหดร้ายจนถึงขั้นที่ นักเรียน ยังต้องฝึกฝนเวทมนต์และการต่อสู้ เพื่อไปสู้รบปรบมือกับเหล่าทหารของอีกฝ่ายด้วย ซึ่ง “Rem” ก็เป็นหนึ่งในนักเรียนของ “Class 0 (Zero)” หรือกลุ่มนักเรียนที่เก่งที่สุดของฝ่ายสุซาคุที่ได้เข้าร่วมสงครามด้วยเช่นกัน ในเกมนั้นเธอสามารถใช้เวทย์ Cure เพื่อรักษาทุกคนได้ และ Rem ยังเป็นตัวละครแรกๆที่ได้พบกับ Worrior of Light ในภาคนี้ และร่วมเดินทางไปด้วยกันเพื่อช่วยตามหาความทรงจำที่หายไป

clo
Cloud Strife (จาก Final Fantasy VII)
ให้เสียงพากย์โดย คุณซากุราอิ ทาคาฮิโระ

ตัวละครยอดนิยมอันดับ 1 ขวัญใจพ่อยกแม่ยกประจำซีรี่ส์ ที่หลายคนน่าจะรู้จักกันดีหรือเคยเห็นหน้าเห็นตากันมาบ้าง “Cloud” เป็น Soldier 1st Class หรือเป็นหนึ่งในทหารที่เก่งที่สุดใน “Final Fantasy VII” เขาเป็นคนที่มีทักษะการต่อสู้อยู่ในระดับสูง แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องของคนอื่น นอกจากการอมทุกข์และรู้สึกผิดอยู่กับเรื่องของตัวเอง นั่นจึงทำให้เขาเป็นคนที่พรรคพวกคนอื่นๆไม่ค่อยชอบขี้หน้านัก แต่เมื่อต้องต่อสู้แล้วเขาก็จะแบกดาบเล่มยักษ์ Buster Sword คู่ใจไปฟาดฟันศัตรูโดยไม่มีทางแพ้ใครแน่นอน ซึ่งในเกมนี้หลายคนก็คงจะคิดเอาเขาเข้าร่วมทีมด้วยเป็นแน่

yun
Yuna (จาก Final Fantasy X)
ให้เสียงพากย์โดย คุณอาโอกิ มายูโกะ

“Final Fantasy X” เป็นเรื่องราวของโลก Spira ที่ซึ่งความตายทั้งมวลจะกลายเป็นวิญญาณและถูกสวดส่งไปยังสถานที่อันห่างไกล “Yuna” นั้นเป็นผู้ที่สามารถติดต่อสื่อสารกับวิญญาณ และยังเป็นผู้อัญเชิญ มนต์อสูร อีกด้วย เธอมีหน้าที่ต้องออกเดินทางไปทำภารกิจสวดส่งวิญญาณ พร้อมการเดินทางไปปราบจอมปีศาจ Sin ที่คืนชัพกลับมาอีกครั้งให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าในเกมภาคนี้ เธอจะสามารถใช้เวทมนต์ต่างๆมาคอยช่วยเหลือซัพพอร์ททีมได้ด้วย

นี่ก็เป็นตัวละครส่วนหนึ่งที่จะปรากฎตัวใน “Dissidia Final Fantasy: Opera Omnia” แต่นอกจากนี้ก็ยังมีตัวละครอีกมากมายที่จะมาร่วมเดินทางกันในเรื่องราวการผจญภัยกอบกู้โลกครั้งนี้ด้วย ครั้งต่อไปจะมีตัวละครไหนมาแนะนำกันอีก ก็ขอให้อดใจรอติดตามกันได้เลยครับ