Duel Links จัดเด็คแบบไหนถึงจะไต่ Rank ขึ้น!?

by




Yu-Gi-Oh! Duel Links หลังจากที่พึ่งมีทัวร์ใหญ่อย่าง KC Cup ไปก็คงได้เจอกับผู้เล่นที่จัดเด็คหลากหลายแบบ หลากหลายสไตล์ ใช่ไหมล่ะครับ วันนี้ผมเลยมีแนวทางการจัดเด็คในแบบต่างๆ มาแชร์ชาว Appgame กัน!

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อน ว่าใน YGO Duel links กฎของการ์ดยูกิมันเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นจำนวนการ์ดในเด็คที่น้อยลง ขนาดสนามดูเอลที่ทำให้เราสามารถวางมอนสเตอร์ และการ์ดเวทย์มนต์/กับดัก ได้น้อยลง และแถมการ์ดที่สามารถเล่นได้ในเกมนี้ยังมีให้เราใช้น้อยมาก ทำให้ผู้เล่นเกิดข้อจำกัดในการจัดเด็คอยู่มากเลยล่ะ

แต่ยังไงซะ วันนี้ผมก็อยากจะมาแนะนำเด็คสุดแสบ ที่ถ้าจัดได้แนวนี้แล้วรับรองว่า การไต่แร๊งค์ใน Ranked Duel ไม่ใช่เรื่องยาก และตำแหน่ง King of Games(KoG) หรือแร๊งค์สูงสุด ก็จะไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

1. Deck ไดโนเสาร์ เขาว่าทั้งโหดทั้งประหยัด!

เด็คนี้ต้องขอบอกว่าเป็นเด็คที่เล่นง่ายมากๆ เข้าใจไม่ยากสำหรับผู้เล่นทั่วไป โดยผู้เล่นจะต้องใช้ตัวละคร Rex Raptor ที่มาพร้อมกับสกิล Dinosaur Kingdom ช่วยให้ผู้เล่นสามารถโจมตีด้วยมอนสเตอร์ไดโนเสาร์ ซึ่งมีพลังโจมตีไม่ตํ่ากว่า 1800-1900 ซึ่งสามารถเล่นร่วมกับการ์ด ฟิวชั่น(Polymerization) และการ์ดที่ต้องซื้อจาก Trader อย่าง Thunder Dragon

นอกจากจะเล่นง่ายมากๆ แล้ว จุดเด่นของเด็คนี้คือความประหยัดของมัน เพราะเหล่าไดโนเสาร์ที่เป็นตัวหลักของเด็คอย่าง Two-Headed King Rex, Crawling Dragon #2 และ Element Saurus เป็นแค่การ์ดระดับ Rare เท่านั้น ซึ่งใช้ทั้งเงินและเวลาน้อยกว่าการจัดเด็คอื่นๆ ค่อนข้างมาก จะมีก็แค่  Thunder Dragon และ Twin-Headed Thunder Dragon ที่อาจจะต้องใช้เวลาในการสะสมซักหน่อย แต่รับรองว่าโหดแน่นอนครับ!

ตัวละคร: Rex Raptor

สกิล: Dinosaur Kingdom

การ์ดหลักที่ควรมีในเด็ค:

  • Two-Headed King Rex
  • Crawling Dragon #2
  • Element Saurus
  • Thunder Dragon
  • Twin-Headed Thunder Dragon
  • Bracchio-raidus
  • Polymerization

 

2. Harpie Deck สุดป่วน บอกลาการ์ดฟิลด์และการ์ดที่หมอบอยู่!

เด็คนี้เป็นเด็คที่อาจจะเล่นยากซักหน่อย แต่สามารถแก้ทางเด็คที่ใช้ไพ่ฟิลด์เป็นหลัก อย่างเช่นเด็คนํ้า หรือเด็คไดโนเสาร์ รวมถึงเด็คที่จำเป็นต้องพึ่งการ์ดเวทย์มนต์/กับดัก เยอะๆ อีกด้วย เพราะตัวเด็ค Harpie นี้จะใช้สกิลของตัวละคร Mai Valentine เพื่อสร้างการ์ดฟิลด์ Harpies’s Hunting Grounds ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเด็คนี้เลยก็ว่าได้ เพราะการ์ดใบนี้จะทำให้เราสามารถทำลายเวทย์มนต์หรือกับดักที่หงายหรือหมอบอยู่ก็ได้ ทุกครั้งที่เราเรียกมอนสเตอร์ที่มีคำว่า Harpie อยู่ในชื่อ พูดง่ายๆ ก็คืออีกฝั่งปวดหัวแน่นอนถ้าเจอแบบนี้เข้า

แต่ความสามารถในการทำลายการ์ดเวทย์มนต์/กับดักแบบรัวๆ ก็ต้องแลกมากับพลังโจมตีอันน้อยนิดของการ์ดประเภท Harpie แถมสกิล Harpie’s Hunting Grounds เป็นสกิลที่ไม่ได้ติดตัวมากับการเลเวลอัพตัวละคร Mai แต่ต้องมาจากการ Drop เท่านั้น ซึ่งเราต้องเล่นตัวละคร Mai เจอกับ Legendary Duelist คนอื่นๆ ไปเรื่อยๆ ซึ่งใช้ดวงค่อนข้างมากกว่าจะได้สกิลมา

ตัวละคร: Mai Valentine

สกิล: Harpie’s Hunting Grounds

การ์ดหลักที่ควรมีในเด็ค:

  • Harpie Lady Sisters 2x
  • Harpie Lady 1x
  • Harpie Lady 2 1x
  • Harpie Lady 3 1x
  • Elegant Egotist 3x
  • Quill Pen of Gulldos 2x
  • Wonder Balloon 2x

3. เด็คนํ้า Mako บึ้มทั้งสนาม

ถือว่าเป็นเด็คที่น่าจะเห็นบ่อยที่สุดแล้ว ตั้งแต่เล่นโหมด PvP มา เพราะเป็นเด็คที่เล่นง่าย และมีเอฟเฟ็คพลังทำลายล้างสูงจากคอมโบ Umi กับ Levia-Dragon – Daedalus ซึ่งเป็นหัวใจหลักของเด็คนี้ โดยผู้เล่นจะได้ใช้สกิลของตัวละคร Mako Tsunami เพื่อเรียกการ์ดฟิลด์ Umi ออกมาตอนเริ่มเกม จากนั้นถ้าเรียก Daedalus ออกมาได้ก็ถือว่าเกมจบทันที เพราะเอฟเฟคของการ์ดจะเป็นการนำ Umi ลงสุสาน เพื่อทำลายการ์ดทั้งหมดบนสนาม พูดง่ายๆ ก็คือลงมาแล้ว เจอ 2600 ดาเมจเข้า Life Point เต็มๆ แน่นอน

ข้อดีของเด็คนี้ก็คือมันสามารถหาการ์ดสำคัญได้ง่ายมากๆ ถ้ายอมเปย์หน่อย เพราะการ์ดส่วนใหญ่จะอยู่ในซอง Age of Discovery ซึ่งเป็น Minibox อีกด้วย ทำให้การเปิดหาการ์ดหลักๆ ที่ต้องใช้ในเด็คนี้ไม่ใช่เรื่องยากเลย ผู้เล่นใหม่สามารถเลือกที่จะเท Gem ลงไปกับการเปิดซองนี้แต่ เพื่อจัดเด็คแต่เนิ่นๆ ก็ทำได้เช่นเดียวกัน

ตัวละคร: Mako Tsunami

สกิล: Mythic Depths

การ์ดหลักที่ควรมีในเด็ค:

  • Levia-Dragon – Daedalus
  • Unshaven Angler
  • Kaiser Sea Horse
  • Yomi Ship
  • Needle Sunfish
  • Big Wave Small Wave
  • Water Hazard
  • Umi

ใครลองเด็คไหนแล้วได้ผลเป็นยังไง ก็อย่าลืมมาแชร์กันได้นะครับผม ^_^

 

Xegor