RoV กับ PC MOBA อะไรคือความแตกต่าง!?
เกม MOBA บนมือถืออย่าง Realm of Valor (RoV) ต้องบอกว่าเป็นกระแสใหม่ที่มาแรงมากๆ ในปีนี้ และทำให้เกมเมอร์ทั้งแบบ Casual และ Hardcore ได้ใกล้ชิดกับเกมแนวนี้มากยิ่งขึ้น
MOBA หรือ Multiplayer Online Battle Arena เป็นชื่อที่ใช้เรียกเกมบน PC ที่ค่อนข้างฮิตในสมัยนี้อย่าง DotA2, League of Legends, HoN หรือ Heroes of the Storm ซึ่งเป็นเกมที่มีความซับซ้อนและใช้เวลาในการเรียนรู้ค่อนข้างมาก เพราะตัวเกมมีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างเยอะ ตั้งแต่ตัวละครที่มีเป็นร้อยตัวที่มีสกิลให้จำตัวละ 4 สกิล แถมไอเท็มก็ยังมีให้เลือกใช้ เลือกผสมได้อีกมากมาย ทำให้ผู้เล่นแนว Casual หลายๆ คนต่างก็หันหน้าหนีเกมประเภทนี้
แต่แล้วเทคโนโลยีก็มาถึงจุดที่นักพัฒนาเกม สามารถนำเกม MOBA มาสร้างเป็นเกมมือถือได้ เริ่มจาก Vainglory ที่ตอนนี้ก็เริ่มมีการแข่งขันอย่างเป็นทางการอย่างใหญ่โตที่ต่างประเทศ มาจนถึงเกมอย่าง Realm of Valor หรือ RoV ที่ตอนนี้กำลังฮิตมากในไทยเรา ซึ่งเกม MOBA บนมือถือเหล่านี้สามารถจับกลุ่มผู้เล่นที่มองหาแค่ความสนุกจากเกม แต่ไม่อยากเสียเวลามากไปกับมันนั่นเอง
วันนี้ผมจึงอยากจะมาพาทุกท่านมาเจาะลึกถึงข้อแตกต่างระหว่างเกม MOBA บนมือถือ และ MOBA บน PC กันครับ
เวลาที่ใช้ในการเล่น
สำหรับเกม MOBA โดยปกติแล้ว ระยะเวลาของเกมจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 60 นาที ซึ่งอาจยืดยาวได้นานกว่านั้นตามเหตุการณ์ในเกม ทำให้ผู้เล่นต้องเผื่อเวลาในการเล่นไว้ค่อนข้างมาก เพราะถ้ามีธุระต้องออกไปข้างนอกในอีกครึ่งชั่วโมง คงไม่ใช่เรื่องดีที่จะเริ่มกดหาห้องเลย
แต่สำหรับ Realm of Valor แล้ว แต่ละเกมจะดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และมักจะจบเร็วกว่าเกม MOBA ในคอม โดยระยะเวลาที่ใช้ในการเล่นแต่ละเกมจะอยู่ที่ประมาณ 15 – 35 นาที ทำให้เหมาะสำหรับเล่นในช่วงเวลาพักที่มีเวลาค่อนข้างจำกัด แถมยังสามารถเล่นต่อขณะเดินทางออกจากบ้านได้อีกด้วย (แต่ถ้าตอนเดินผมว่าอย่าเล่นเลยนะ 555) พูดง่ายๆ ก็คือเป็นเกมสำหรับคนที่มีเวลาเล่นน้อยกว่า แต่ยังอยากมันส์กับเกม MOBA นั่นเอง
ความสะดวกสบายเวลาเล่น
ด้วยความที่ Realm of Valor เป็นเกมมือถือ จึงย่อมมีข้อได้เปรียบในเรื่องความสะดวกสบายเวลาเล่นอยู่แล้ว นอนบนเตียงก็เล่นได้ อยู่บนรถสาธารณะก็เล่นได้ หรือจะเล่นตอนพักกลางวันที่โรงเรียนหรือที่ทำงานก็ได้ ต่างกับเกม MOBA บน PC ที่ผู้เล่นจำเป็นต้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลาการเล่น แต่บางครั้งมันก็ไม่ได้สะดวกขนาดนั้น เพราะมือถือ Smartphone เป็นเครื่องมือสื่อสารประจำตัวของทุกคน ถ้าเล่นอยู่ก็ตอบไลน์ยาก รับสายโทรศัพท์ที่เข้ามานี่ยิ่งแล้วใหญ่ (ในกรณีที่ไม่มีหูฟังติดตัว) ไหนจะมีปัญหาแบตเสื่อม และเครื่องร้อนระหว่างเล่นอีก ซึ่งไม่เหมาะกับการเล่นหนักๆ นอกบ้านเท่าไหร่นัก ทำให้หลายๆ ครั้งงมันกลายเป็นเกมที่ต้องเล่นไปชาร์จไป กลายเป็นว่าต้องนั่งเล่นอยู่กับที่ ไม่ต่างกับเกม MOBA บน PC มากนัก
Content หรือเนื้อหาของเกม
หลังจากที่พูดถึงคุณสมบัติโดยรวมของเกมทั้งสอง Platform แล้ว มาดูตัวเนื้อหาของเกมกันบ้างดีกว่า เพราะถึงแม้ทั้งสองเกมจะเป็นเกมแนว MOBA แต่ก็มีหลายๆ อย่างที่แตกต่างกันอยู่ค่อนข้างมาก เริ่มจากการควบคุมตัวละคร ที่ต้องใช้นิ้วโป้งเลื่อนทิศทางแทนการใช้เม้าส์คลิ๊ก เวลากดสกิลก็เปลี่ยนจากการแตะหน้าจอ แทนที่จะใช้คีบอร์ด สร้างข้อจำกัดในการควบคุมตัวละครระหว่างเกมสองแบบ ซึ่งก็อยู่ที่ว่าใครจะถนัดการเล่นแบบไหนมากกว่ากัน
ในส่วนของจำนวนตัวละคร ก็ยังถือว่า RoV ตามหลังเกม MOBA บน PC อยู่มาก แถมจำนวนไอเท็มก็ยังมีไม่เยอะและหลากหลายเท่า ทำให้บางครั้งอาจเกิดความรู้สึกอึดอัดในขณะเล่น แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับเกมที่จบไวและมีรายละเอียดไม่มากเท่า ก็ถือว่าเป็นจำนวนที่เหมาะสมกำลังดี แถมเปิดโอกาสให้ผู้เล่นใหม่ ที่พึ่งเข้ามาลองเล่นเกมแนว MOBA ได้ค่อยๆ เริ่มเรียนรู้พื้นฐานของเกม โดยไม่โดนยัดข้อมูลอันมหาศาลเหมือนเวลาหัดเล่น LoL หรือ DotA
อีกคำถามที่น่าสนใจก็คือ เกม Realm of Valor จะสามารถกลายมาเป็นเกม eSport ได้หรือไม่ เพราะถึงแม้ความสนุกจะสามารถวัดกันได้กับเกม MOBA บน PC แต่ด้วยเนื้อหาของเกมที่มีรายละเอียดไม่มาก ทำให้การเป็นผู้ชมของเกมนี้ อาจไม่ได้รับอรรถรสแบบเดียวกัน ซึ่งผู้ชมก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญมากของการก้าวเข้าสู่เกมระดับ eSport เช่นเดียวกับความสนุกในการแข่งขันของผู้เล่น
สรุปแล้วทั้งสองเกมนี้ต่างกันอย่างไร?..
จากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว เราก็จะได้ข้อสรุปว่าจริงๆ แล้ว เกมทั้งสอง Platform มีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป โดยเกม RoV จะเหมาะสำหรับผู้เล่นที่มองหาความมันส์สไตล์ MOBA แบบไม่ต้องคิดอะไรมาก หรือพูดง่ายๆ ก็คือเหมาะกับผู้เล่นสไตล์ Casual นั่นเอง ส่วนเกม MOBA บน PC อย่าง LoL, HoN, และ DotA จะเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่อยากจะไปให้สุดทางแบบ Hardcore ทางเกมแนวนี้เลยเสียมากกว่าครับ
