4 เหตุผลที่ทำให้คุณต้องเล่น Super Mario Run!
Super Mario Run เป็นเกมมือถือแรกและล่าสุดของ Nintendo ที่ถูกปล่อยออกมาเพื่อแข่งขันในตลาดเกมมือถือเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา
และแน่นอนว่าเกมที่ถูกสร้างโดยอัจฉริยะอย่าง Shigeru Miyamoto และมีประวัติศาสตร์อย่างยาวนานอย่าง Super Mario Bros. ต้องมีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และก็เกิดความสงสัยกันว่าเกมจากคอนโซล พอเอามาลงมือถือแล้วจะรอดหรือ โดยเฉพาะ Super Mario Run ที่เปลี่ยนรูปแบบการควบคุมจากปุ่มกดหลายๆ ปุ่ม เหลือแค่การจิ้มด้วยนิ้วเดียว
นอกจากเรื่องของ Gameplay ที่เปลี่ยนไปแล้ว ตัวเกมยังมีราคาที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเกมมือถือแนว Platformer เกมอื่นๆ ($10 หรือประมาณ 360 บาท) ทำให้เกมเมอร์สายฟรีและสาย Casual ต้องมีการลังเลกันบ้าง
แต่ยังไงซะ ถึงแม้ว่าเกมจะไม่เหมือนต้นฉบับ และมีราคาที่อาจจะแพงไปนิด ก็ไม่ได้ทำให้ความเจ๋งของเกมนี้ลดลงแต่อย่างใด วันนี้ทาง Appgame มีเหตุผลว่าทำไมชาวเกมเมอร์ทั้งหลายถึงควรลองเกมมือถือจากเกมสุดคลาสสิกอย่าง SMR มาฝากชาวเกมเมอร์ทุกท่านกันครับ
1. ให้ความรู้สึกเหมือนเล่นมาริโอ้บน Console
ถึงแม้วิธีในการควบคุมตัวของลุงหนวด มาริโอ้ จะเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกเวลาเล่นกลับเหมือนเดิมกับตอนที่เล่น Super Mario Bros. เด๊ะเลย เพราะจริงๆ แล้ว SMR ก็คือเกมๆ เดิม ที่ผู้เล่นจะต้องวิ่ง กระโดด เก็บเห็ด เก็บเหรียญ เหยียบ Goomba และกระโดดรูดเสาเพื่อผ่านไปยังด่านต่อไป ซึ่งแต่ละด่านมีลูกเล่นที่แตกต่างกัน และยากพอที่จะสร้างความท้าทายให้กับชาวเกม Platformer ได้ดีเลยล่ะ
ใครที่เป็นแฟนๆ เกมมาริโอ้บนเครื่อง Console อยู่แล้วหรืออยากได้เกมมือถือแนว Platformer เจ๋งๆ มาเล่นบนมือถือ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
2. ภาพสวยสีสันสดใส กับกราฟิกระดับ HD
$10 ที่เสียไปให้กับ SMR ถ้าพูดกันตรงๆ แล้ว แค่ความสวยงามของกราฟิก ฉากในด่านต่างๆ และตัวละครทุกตัวในเกมก็เรียกว่าคุ้มเงินได้แล้วล่ะครับ เพราะคุณภาพของกราฟิกและการใช้สีสันต่างๆ ภายในเกมมีความคล้ายกับเกมมาริโอ้บนเครื่องคอนโซลอย่าง Nintendo 3DS หรือแม้กระทั่ง Wii U ด้วยซํ้า
แน่นอนว่าความสวยงามสดใสของภาพ บวกกับตัวละครหน้าตาน่ารักๆ ทำให้ SMR ต้องเป็นเกมมือถือที่น่าสนใจสำหรับเหล่าเกมเมอร์สาวและ Casual Player ชัวร์!
3. เล่นด่านเดิมๆ ได้หลายครั้ง ไม่มีเบื่อ
ในแต่ละ World ของเกมนี้จะมีเหรียญพิเศษให้เก็บทั้งหมด 3 สี คือสีชมพู สีม่วง และสีดำ ซึ่งผู้เล่นจะได้เริ่มจากการไล่เก็บเหรียญสีชมพูทั้งหมด 5 เหรียญ ที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ ภายในด่านและเมื่อเก็บครบทุกเหรียญภายในการเล่นครั้งเดียว (ถ้าย้อนกลับมาเล่นต้องเริ่มเก็บใหม่) ผู้เล่นจะได้เปลี่ยนมาเก็บเหรียญสีม่วงแทน ซึ่งตำแหน่งของเหรียบก็จะแตกต่างกับสีชมพู และเก็บยากขึ้นด้วย และถ้าสะสมเหรียญม่วงครบแล้ว ก็จะเหลือเหรียญสีดำ แต่คราวนี้นอกจากตำแหน่งเหรียญจะเปลี่ยนแล้ว ตัวด่านยังมีความยากมากขึ้นอีกด้วย!
ใครที่ชอบความท้าทายหรือเป็นผู้เล่น Platformer แนว Hardcore หน่อยก็จะชอบ Super Mario Run เป็นอย่างมากเลยล่ะครับ
4. เลือกเล่นได้หลายโหมด พร้อมระบบ Multiplayer
นอกจากโหมดปกติที่เราจะได้เล่นไปตาม World ต่างๆ เหมือนเกมมาริโอ้ทั่วไปแล้ว ตัวเกมยังมีโหมด Kingdom Builder ให้เล่นคลายเครียดอีกด้วย โดยในโหมดนี้เราจะได้ใช้ Coin หรือ เหรียญทอง ที่สะสมจากการเล่นโหมดปกติ เพื่อนำไปซื้อสิ่งก่อสร้างและของตกแต่งมาสร้างอาณาจักรของตัวเอง แถมสิ่งก่อสร้างบางชิ้นยังสามารถปลดล็อคตัวละครพิเศษอย่าง Luigi และ Yoshi แถมยังมีบางชิ้นที่เวลาจิ้มแล้วจะกลายเป็น Mini game ให้เล่นอีกด้วย
และสุดท้าย SMR เป็นเกมมือถือที่มีระบบ Multiplayer จากโหมด Toad Rally ทำให้เราสามารถแข่งขันกับเพื่อนหรือผู้เล่นจากทั่วทุกมุมโลกได้ โดยจะเป็นเกมแข่งเก็บเหรียญทองไปตามด่าน และนับคะแนนจากเหรียญที่เก็บได้ และจำนวน Toad ที่ชอบเรา(จำนวน Toad จะขึ้นอยู่กับการเล่นท่าต่างๆ ภายในด่าน) เรียกได้ว่าครบเครื่องทุกรสชาติเลยทีเดียว
สุดท้ายนี้ก็แล้วแต่ชาวเกมเมอร์จะพิจารณาแล้วล่ะครับ ว่าคุ้มไหมที่จะต้องเสียเงินซื้อ SMR แต่โดยส่วนตัวแล้วตั้งแต่เล่นมา ถือว่าเป็นเกมมือถือที่สนุกเกินความเป็นเกมมือถือไปมาก และถ้าใครสนใจก็สามารถเข้าไปโหลดเล่นได้จาก App Store ฟรีถึง 3 ด่าน ซึ่งผมว่ามีส่วนช่วยในการตัดสินใจแน่นอนจ้า
Happy Gaming ครับผม~
