[Review] Bastion นิทานเด็กกู้โลก

by

ถือว่าเป็นเกมที่มีชื่อเสียงอยู่พอสมควรนะครับสำหรับ Bastion บนแพลทฟอร์มของคอมพิวเตอร์ แน่นอนว่าเกมดีๆแบบนี้พอร์ทมาลงในมือถือด้วยก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย วันนี้ผมจึงนำเกมนี้มารีวิวให้เพื่อนๆดูกันครับว่าเกมนี้มันมีดียังไง ถึงขนาดได้ลงแพลทฟอร์มหลายๆเครื่องกันเลยทีเดียว

Bastion เป็นเกมแนว Action RPG ภายใต้เนื้อเรื่องที่ว่า เราคือตัวละครที่ชื่อว่า The Kid ที่อาศัยอยู่ในโลกที่กำลังจะล่มสลายที่ชื่อว่า Caelondia ได้เดินทางมาพบกับตาแก่ (ตาแก่เป็นคนเล่าเรื่องให้เราฟังตลอดเกม) ในเกาะที่ชื่อว่า Bastion ตาแก่ได้ขอร้องเราให้ไปรวบรวม Core ที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆภายใน Caelondia เพื่อที่จะนำมาฟื้นฟูโลกให้กลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้งนึง

อย่างที่บอกไปในข้างต้นว่า Bastion เป็นเกม Action RPG ลักษณะเกมจะคล้ายๆพวก Diablo , Touchlight2 เป็นกราฟฟิคแบบ 2.5D (3D แบบ fix มุมกล้อง) รูปแบบการบังคับนั้นเข้าใจง่ายมาก เราจะต้องบังคับ slide pad ที่อยู่ทางซ้ายมือ และ ปุ่มโจมตีต่างๆทางขวามือ

จุดเด่นของเกมนี้จริงๆไม่ได้อยู่ที่เกมเพลย์ครับ แต่คือเรื่องการดำเนิน/เล่าเรื่องของเกมนี้ ทำออกมาได้เจ๋งสุดๆ นั่นคือ เกมนี้จะเล่าเรื่องผ่านบุคคลที่ 3 นั่นคือตาแก่ที่มาขอร้องเราในตอนต้นนั่นเอง ทุกการกระทำของเกมส่งผลหมด ไม่เว้นแม้แต่การเอาค้อนไปไล่ทุบหินโง่ๆในฉาก ตาแก่ก็ยังพูดให้ฟังเลยครับ โดยตาแก่จะค่อยๆเล่าเรื่องไปเรื่อยๆตามแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ระหว่างเราเล่น

กราฟฟิคเกมนี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเรากำลังอยู่ในยุคสมัยที่หลายๆเกมในฝั่ง PC หรือคอนโซลก็ตามที ทำให้เครื่องพกพาอย่างเช่น iPhone iPad หรือมือถือรุ่นต่างๆนั้นเล่นแทบจะสบายๆแล้ว กราฟฟิคเกมนี้ไม่ขี้เหร่เลยนะครับ และก็ยังทำออกมาได้ไหลลื่น ไม่รู้สึกเวียนหัวแต่อย่างใด

Bastion จะดำเนินเนื้อเรื่องเป็นเส้นตรง พื้นที่ส่วนใหญ่ภายในเกมจะเป็นลักษณะคล้ายกับเกาะลอยฟ้า (เดินดีๆระวังหล่นเหวนะครับ เกมนี้หล่นเหวได้ แต่หล่นไปแล้วแค่เสียเลือดเฉยๆ) ค่อยๆเดินไปตามทางเรื่อยๆ ระหว่างทางจะเจอศัตรูหลายรูปแบบ โดยตัวเอกของเราจะมีอาวุธอยู่หลายชนิด เช่น ค้อน ดาบ ธนู ปืน สามารถพกมาได้แค่ทีละ 2 ชิ้น อาวุธแต่ละชนิดก็จะมีความสามารถพิเศษแตกต่างกันไปแล้วแต่ถนัดนั่นเอง

ตามสไตล์เกม RPG ก็ย่อมมีการเก็บเลเวลพ่วงมาด้วยแน่นอน ลำพังเนื้อเรื่องเฉยๆอาจจะทำให้เลเวลขึ้นช้าไปทำให้เล่นลำบาก (เพราะเนื้อเรื่องไม่สามารถวนมาเล่นซ้ำได้) ตัวเกมจึงจัด Dreaming Mode มาให้ คล้ายๆกับลานประลอง หากชนะก็จะได้เงินและ exp นั่นเอง ซึ่งสามารถลงได้ไม่จำกัดครั้ง สายฟาร์มก็มาลุยกันได้ตามอัธยาศัย ส่วนอีกโหมดที่มีให้เล่นระหว่างเกมคือโหมดทดสอบอาวุธ โดยในโหมดนี้จะมี Challenge ให้เล่นด้วย หากทำได้ก็จะได้รับรางวัล ตรงนี้คงเป็นจุดติอันเดียวที่อยากบ่นว่า Challenge นั้นยากมาก หากจะเล่นเก็บ 100% ตรงนี้อาจทำให้หัวเสียได้เลย

หากคุณกำลังมองหาเกม Action RPG ดีๆซักเกม ควรมอง Bastion ไว้เป็นตัวเลือกนะครับ ด้วยราคาประมาณ 150 บาท กับสิ่งที่คุณได้ ไม่ว่าจะเป็นเกมเพลย์ที่เพลินพอตัว การเล่าเรื่องที่โครตเยี่ยม และกราฟฟิคที่ค่อนข้างน่าพึงพอใจ มันจึงไม่แพงเลยสำหรับค่าตัวประมาณนี้