[Review] Garena Free Fire ยิงกันสนั่น! Battle Royale บนมือถือจากการีน่า

by




ยุคนี้เป็นยุคของเกมแนว Battle Royale หรือเกมแบบจับผู้เล่นจำนวนมากๆ มารวมตัวแล้วปล่อยให้ตีกันจนกว่าจะมีคนเหลือรอดเพียงคนเดียวก็ว่าได้ครับหลังจากที่ Player unknown’s Battleground หรือ PUBG ประสบความสำเร็จแบบเปรี้ยงปร้างอย่างคาดไม่ถึง แม้เกมจะเพิ่งออกจากสถานะ Early Access บน Steam มาได้ไม่นานแต่ก็เริ่มมีความสนใจจะทำเกมเป็นกีฬา E-Sport กันแล้ว แน่นอนว่าถ้าเป็นรูปแบบเกมที่ประสบความสำเร็จย่อมมีความสนใจที่จะปรับรูปแบบเกมลงมือถือเช่นกัน


สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับ PUBG หรือเกมแนว Battle Royale ไม่ต้องกังวลครับ เราจะมาแนะนำให้ท่านรู้จักตรงนี้เอง โดยเกมแนว Battle Royale อย่างที่ได้พูดถึงไปข้างต้นว่าเป็นเกมแนวเอาตัวรอด โดยเกมจะจับเรามารวมกับผู้เล่นคนอื่นๆ โดยเป้าหมายของเกมคืออยู่รอดให้นานที่สุด โดยวิธีการเอาตัวรอดในเกมก็คือพยายามฆ่าผู้เล่นคนอื่นให้ได้ก่อนที่เราจะโดนฆ่าซะเอง โดยจะมีอาวุธรูปแบบต่างๆพร้อมอุปกรณ์เสริม ให้เก็บมาใช้ตามความถนัดของเรา และเกมจะค่อยๆ จำกัดพื้นที่ในการเล่นลงเมื่อเวลาผ่านไปเพื่อบังคับให้ผู้เล่นต้องมาเจอหน้ากันและตีกันให้ได้เพื่อหาคนที่อยู่รอดคนสุดท้ายเพียงคนเดียวนั่นเองครับ
Free Fire จากการีน่าเป็นอีกเกมที่นำรูปแบบเกมใหญ่จากพีซี (โดยอีกเกมที่ทำแบบเดียวกันคือ RoV ที่ได้แนะนำไปก่อนหน้านี้) มาลงในมือถือและยังเปิดให้เล่นฟรีอีกด้วย โดยความต่างกับ PUBG นั้นมีแค่จำนวนผู้เล่นต่อหนึ่งเกมเท่านั้นเองครับ ใน Free Fire นั้นรับผู้เล่นเพียง 50 คนต่อหนึ่งเกมเท่านั้น ในส่วนที่เหลือไม่ว่าจะเป็นวิธีการเล่น อาวุธ หรือพาหนะที่จะช่วยพาเราไปยังที่ต่างๆ ในเกมมีเหมือนกันหมดเลย ก็ต้องบอกว่าไม่มีอะไรใหม่เลย นอกจากฉากและตัวละครที่ถูกปรับเปลี่ยนไปบ้างนิดๆหน่อยๆ (หรือจะให้พูดตรงๆก็คือ มันก็ต้องเปลี่ยนบ้าง ไม่งั้นคงโดนฟ้องยับเละเทะแหละนะครับ)

ในส่วนของการควบคุมก็ถูกดัดแปลงให้เล่นบนมือถือได้สบายขึ้น แต่เชื่อผมเถอะว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังคงรู้สึกหงุดหงิดกับการต้องเล่นเกมแนว FPS บนมือถือ / หรือจอยสติ๊กแน่นอน มั่นใจว่ายังไงคนก็ยังชอบที่จะจับเม้าส์เพื่อควบคุมปืนของเรา ถูกมั้ยล่ะครับ ? ฉะนั้นแล้วก็ต้องปรับตัวให้คุ้นชินกับการควบคุมซักหน่อยนึง

ข้อติใหญ่ๆ ของผมที่มีต่อเกมมีอยู่สองอย่างคือรูปแบบเกมที่ไม่เหมาะกับการนำมาปรับให้เป็นเกมเล่นบนมือถือ กับข้อแตกต่างที่หาแทบไม่ได้เลยกับ PUBG นอกจากชื่อเกมครับ ผมมองว่าเกมแนว Battle Royale (รวมไปถึง MOBA ด้วย) เป็นเกมที่เราต้องตั้งสมาธิกับมันพอสมควรในการเล่น ไม่เหมาะที่จะเอามาทำเป็นเกมมือถือเพื่อให้เล่นที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้เท่าไหร่นัก อีกอย่างก็คือไหนๆ ถ้าจะนำมาปรับเป็นเกมมือถือแล้วก็อยากให้ใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเข้าไปอีกนิดจะได้ไม่ดูเหมือนลอกเขามาทั้งดุ้น แต่ถ้าอาวุธในเกมมีเหมือน PUBG ยันกระทะแบบนี้ถ้าเราจะบอกว่าเกมนี้ไม่ได้ลอก PUBG มาเลยก็คงพูดได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่นัก

โดยรวมแล้วเกมนี้เหมาะกับคนที่อยากเล่นเกมแนว Battle Royale แต่ยังไม่อยาก/ไม่สามารถซื้อ PUBG หรือ hardware แรงๆ มาเล่นบนพีซีได้ครับ